HIP GLOBAL CO.,LTD.

บริษัท เอชไอพี โกลบอล จำกัด

         บริษัท เอชไอพี โกลบอล จำกัด เป็น บริษัท ฯ แรกที่เริ่มในการนำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบสแกนลายนิ้วมือ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2001 และเป็นบริษัทฯ ที่บุกตลาด และปลุกกระแสวงการสแกนลายนิ้วมือด้วยการนำระบบ Biometric มาใช้ในผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ทาง บริษัท เอชไอพี โกลบอล จำกัด ได้ผลิตและจำหน่ายออกไปมากกว่า 1,500 รายการ จนเป็นที่ยอมรับ และเชื่อถือได้ว่าเป็นเจ้าแรก เจ้าเดียว ในประเทศไทย ที่มีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสแกนลายนิ้วมือให้การยอมรับว่าครอบคลุมตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างชัดเจน ธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ การจำหน่ายผ่านผู้แทนจำหน่าย (dealer) ขายส่งและพัฒนาโปรแกรม SDK รวมถึงการพัฒนาสินค้าต่าง ๆ และดำเนินการจัดส่งสินค้า จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดสินค้าระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมกับการสร้าง brand HIP เพื่อสร้างความเชื่อมั่น Security มากจนถึงปัจจุบัน 20 ปีเต็ม ในแวดวงธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัย แน่นอนในแวดวงระบบรักษาความปลอดภัยไม่มีใครจะปฎิเสธและไม่เคยรู้จัก กับ แบรนด์ “HIP” และการยืนหยัดบนเส้นทางสายนี้ และแน่นอนมีบริษัท ฯ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากกว่า 2,000 บริษัท ต่อปี ได้มอบความไว้วางใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ “HIP” และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ บริษัท เอชไอพี โกลบอล จำกัด ยังให้บริการ การทำธุรกิจแบบ OEM , ODM หรือการทำธุรกิจในรูปแบบอื่นเพื่อเป็นการสร้างความเติบโตในธุรกิจผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งมีสินค้าชุดตรวจโควิด-19 ATK และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ภายใต้ HIPBiotech ที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ ให้แก่ผู้แทนจำหน่ายที่มีศักยภาพและได้รับการยอมรับว่า “HIP” เป็นผู้นำทางด้านผลิตภัณฑ์ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน การขยายตัวทางธุรกิจ และการขยายกลุ่มองค์กร ด้วยการได้รับความร่วมมือ ในการร่วมทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำ เพื่อเปิดโอกาสและหาแนวทางในช่องทางการขยายตลาดให้เติบโตและกระจายมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการสร้าง แบรนด์ “HIP” เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้นนั้น และการสร้าง แบรนด์ “HIP” ให้ติดตลาดระดับสากลมากที่สุด

วัตถุประสงค์โดยมุ่งเน้นการขยายความเจริญเติบโตตามกระแสนิยมของสังคมที่ต้องการความปลอดภัยสูง และการขยายสาขาให้รองรับ กับผู้ใช้งานในต่างประเทศให้มากที่สุด ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายหลักในแถบทวีปอเมริกา และแถบบริเวณ ทวีปยุโรป มากขึ้นตามลำดับ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี